Sep 22, 2025
ขี้หลงขี้ลืม เป็นอาการที่วัยทำงานหลายคนเริ่มสังเกตได้จากอาการลืมง่าย เช่น หลง ๆ ลืม ๆ สิ่งของหรือนัดหมายสำคัญ รวมถึงขี้ลืมความจำสั้นในเรื่องราวประจำวัน แม้ว่าบางครั้งอาการหลง ๆ ลืม ๆ อาจเกิดจากความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือภาระงานหนัก แต่ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าสมองและความจำเริ่มเปลี่ยน การสังเกตตัวเอง ปรับพฤติกรรม และตรวจสุขภาพสมองตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงสมาธิลดลง การตัดสินใจช้าลง และภาวะสมองเสื่อมในระยะยาว บทความนี้ CogMate™ จะพาคุณไปทำความเข้าใจอาการขี้หลงขี้ลืม พร้อมเคล็ดลับป้องกันอาการลืมง่าย และแนะนำแพ็กเกจทดสอบสุขภาพสมองที่สามารถทำได้ที่บ้าน
อาการหลง ๆ ลืม ๆ หรือขี้หลงขี้ลืมในวัยทำงานเป็นเรื่องที่หลายคนมักมองข้าม แต่ความจริงมีหลายปัจจัยที่ทำให้สมองทำงานช้าลง และหากไม่ใส่ใจตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจส่งผลต่อความจำสั้นและอาการลืมง่ายในชีวิตประจำวัน
งานวิจัยจาก National Institutes of Health (NIH) พบว่าความเครียดเรื้อรังส่งผลเสียต่อความจำระยะยาว โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าหรือวิตกกังวล เนื่องจากความเครียดสะสมทำให้สมองส่วนฮิปโปแคมปัสทำงานช้าลง ส่งผลให้จดจำรายละเอียดหรือเหตุการณ์สำคัญยาก เกิดอาการหลง ๆ ลืม ๆ และสมาธิลดลง
ถึงหลายองค์กรจะสนับสนุนการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (Multitask) แต่การวิจัยจาก University of London (2009) พบว่าการทำงานหลายอย่างพร้อมกันลดความสามารถในการจำและประมวลผลข้อมูลอย่างมีนัยสำคัญ เพราะสมองต้องแบ่งพลังงานและทรัพยากร ส่งผลให้ลืมเรื่องง่าย ๆ และเพิ่มโอกาสทำงานผิดพลาด
งานวิจัยจาก National Sleep Foundation พบว่าผู้ใหญ่ที่นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืนมีประสิทธิภาพความจำลดลง การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้สมองฟื้นฟูความจำระยะสั้นและระยะยาวไม่เต็มที่ ส่งผลให้อาการขี้หลงขี้ลืมและลืมง่ายเกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน
สมองเป็นอวัยวะที่ต้องการพลังงานและน้ำอย่างต่อเนื่อง การบริโภคอาหารน้ำตาลสูง ไขมันไม่ดี หรือดื่มน้ำน้อย ทำให้สมองทำงานช้าลง งานวิจัยจาก Frontiers in Aging Neuroscience พบว่าการกินอาหารอุดมสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผัก ผลไม้ และไขมันดี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความจำและลดความเสี่ยงสมองเสื่อม
บางครั้งอาการขี้หลงขี้ลืมไม่ได้เกิดจากความเครียดหรือพฤติกรรมเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากโรคทางสมอง เช่น ภาวะสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ งานวิจัยจาก Alzheimer's Association (2023) ระบุว่าประมาณ 6.7 ล้านคนในสหรัฐฯ ที่อายุ 65 ปีขึ้นไปมีภาวะสมองเสื่อม และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 13.8 ล้านคนภายในปี 2060 การสังเกตสัญญาณ เช่น ลืมเรื่องสำคัญซ้ำ ๆ หรือจำชื่อคนใกล้ตัวไม่ได้ จึงควรเข้ารับการทดสอบความจำหรือพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ
เริ่มเช็กพฤติกรรมของคุณวันนี้
เพื่อหาสาเหตุและป้องกันความจำลดลงก่อนเกิดปัญหาใหญ่
อาการขี้หลงขี้ลืมในวัยทำงานไม่ได้เป็นเพียงเรื่องธรรมดาของความเหนื่อยล้า แต่สามารถส่งผลต่อการทำงานและชีวิตประจำวันได้อย่างชัดเจน อาการเหล่านี้อาจสะท้อนถึงสมองที่เริ่มทำงานช้าลง หากไม่สังเกตและปรับพฤติกรรมตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ดังนี้
อาการหลง ๆ ลืม ๆ หรือขี้หลงขี้ลืมในวัยทำงานส่งผลต่อการจัดการเรื่องสำคัญและความจำระยะสั้น เช่น ลืมนัดประชุม เอกสารสำคัญ หรือขั้นตอนงาน ทำให้เกิดความผิดพลาดและความเครียดสะสม รวมถึงต้องอ่านรายงานซ้ำหลายรอบหรือไม่สามารถจดจ่อกับงานได้นาน
เมื่อสมาธิลดลง การคิดไอเดียใหม่ ๆ หรือแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์มักทำได้ช้าลง งานที่เคยทำได้รวดเร็วและลื่นไหลอาจเริ่มติดขัด หากคุณสังเกตว่าเกิดอาการเหล่านี้บ่อย ๆ ลองอ่านบทความ สมาธิหลุดง่ายในตอนทำงาน เรื่องเล็กที่อาจเป็นสัญญาณเตือนสุขภาพ เพื่อทำความเข้าใจสัญญาณเตือนต่าง ๆ และแนวทางการปรับพฤติกรรมให้สมองกลับมาจดจ่อได้ดีเหมือนเดิม
เมื่อความจำและสมาธิลดลง การตัดสินใจอาจไม่เด็ดขาดหรือใช้เวลานานในการวิเคราะห์ ทำให้แก้ปัญหาได้ช้าและเสี่ยงต่อความผิดพลาด
เมื่อความจำและสมาธิลดลง การทำงานร่วมกับทีมอาจได้รับผลกระทบ อาการลืมง่ายทำให้การตัดสินใจช้าลง แก้ปัญหาได้ไม่ทันเวลา และอาจเลือกวิธีแก้ไขที่ไม่เหมาะสม นอกจากนี้ยังส่งผลต่ออารมณ์ ทำให้หงุดหงิดง่าย กังวล หรือเครียดเมื่อเกิดความผิดพลาด ซึ่งสามารถกระทบความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและการทำงานร่วมกัน
เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน หลายคนอาจสังเกตว่าความจำเริ่มไม่แน่นอน มีอาการหลง ๆ ลืม ๆ เรื่องเล็ก ๆ อยู่บ่อยครั้ง แม้บางครั้งจะเกิดจากความเครียดหรือภาระงาน การปรับกิจวัตรประจำวันอย่างเหมาะสม จะช่วยเสริมประสิทธิภาพสมอง พร้อมลดความเสี่ยงต่อปัญหาความจำในระยะยาว
เริ่มต้นวันด้วยการวางแผนงานและเขียนรายการสิ่งที่ต้องทำ จะช่วยติดตามงานสำคัญได้ง่าย ลดโอกาสหลง ๆ ลืม ๆ และช่วยให้สมองไม่ต้องแบกรับภาระความจำทุกเรื่องพร้อมกัน
การทำงานต่อเนื่องโดยไม่พักทำให้สมองเหนื่อย และอาการลืมง่ายเกิดขึ้นบ่อยขึ้น ลองพักสั้น ๆ เดินยืดเส้น หรือทำสมาธิสั้น ๆ เพื่อรีเฟรชสมอง นอกจากนี้ การนอนหลับให้เพียงพอในแต่ละคืนก็สำคัญ เพราะสมองจะได้ฟื้นฟูและจัดเก็บความจำได้ดีขึ้น
สมองต้องการพลังงานและสารอาหารที่เหมาะสม การรับประทานอาหารสมดุล มีผัก ผลไม้ โปรตีน และไขมันดี รวมถึงดื่มน้ำเพียงพอ จะช่วยให้สมองทำงานได้ราบรื่น ลดอาการขี้ลืมความจำสั้น และทำให้คุณพร้อมรับมือกับงานได้เต็มที่
ใช้เวลาเล่นเกมฝึกสมอง ทำปริศนา หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นสมองและเสริมสร้างความจำ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยลดอาการขี้หลงขี้ลืม และทำให้สมองยังคงแจ่มใสแม้ต้องเจองานหลายอย่างพร้อมกัน
ความเครียดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการหลง ๆ ลืม ๆ หาเวลาผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง อ่านหนังสือ ทำโยคะ หรือเดินเล่นในธรรมชาติ จะช่วยให้สมองคลายความตึงเครียด และกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การดูแลสมองไม่จำเป็นต้องซับซ้อน คุณสามารถเริ่มได้ง่าย ๆ ด้วยการประเมินสุขภาพสมองที่บ้านผ่านแบบทดสอบความจำ CogMate™ ใช้งานสะดวก ใช้เวลาไม่นาน ช่วยให้คุณตรวจสอบสมรรถภาพสมองเบื้องต้น พร้อมประเมินความเสี่ยงต่อขี้หลงขี้ลืมได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
ทำไมต้องประเมินสมองตั้งแต่เนิ่น ๆ
สมองเป็นอวัยวะสำคัญที่ควรได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง การสังเกตตัวเองว่าเริ่มมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ หรือขี้ลืมความจำสั้น เป็นสัญญาณเตือนว่าควรเริ่มปรับพฤติกรรมและดูแลสมอง การตรวจสมองตั้งแต่เนิ่น ๆ ช่วยให้คุณสามารถ
แบบทดสอบความจำ CogMate™ ใช้งานอย่างไร
CogMate™ เป็นเครื่องมือทดสอบอายุสมองที่ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายสำหรับทุกคน เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถประเมินสมองเบื้องต้นได้ที่บ้าน ไม่ต้องไปโรงพยาบาลหรือพบแพทย์โดยตรง
วัยทำงานก็สำคัญที่ต้องตรวจสมอง
การตรวจสุขภาพสมองไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้สูงอายุ วัยทำงานก็สามารถเริ่มประเมินได้
การทดสอบสมองตั้งแต่วันนี้คือก้าวสำคัญในการเฝ้าระวังสุขภาพสมอง หากคุณเริ่มมีสัญญาณเล็ก ๆ อย่างอาการลืมง่าย ขี้หลงขี้ลืม หรือจำอะไรไม่ค่อยได้ อย่ามองข้าม เพราะอาการขี้ลืมความจำสั้นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสุขภาพสมองในอนาคต แบบทดสอบสมอง CogMate™ ช่วยให้คุณประเมินความแข็งแรงของสมองได้อย่างแม่นยำ เข้าใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และวางแผนดูแลตนเองก่อนมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ เพื่อรักษาคุณภาพชีวิตและความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเต็มที่ ถึงเวลาที่คุณควรเริ่มตรวจสอบสมองของตัวเอง อย่ารอให้ปัญหาเกิดขึ้นก่อน
เช็กสุขภาพสมองง่าย ๆ ที่บ้านกับ CogMate™
เพื่อวางแผนดูแลสมองให้แข็งแรง