Aug 21, 2025
หลายคนอาจเข้าใจว่าโรคอัลไซเมอร์เป็นแค่ภาวะหลงลืมปกติในผู้สูงอายุ แต่จริง ๆ แล้ว โรคอัลไซเมอร์ สาเหตุเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอายุที่เพิ่มขึ้น พันธุกรรม การเสื่อมของสมองจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือโรคเรื้อรังบางชนิด ซึ่งล้วนส่งผลต่อการทำงานของสมองและอาจนำไปสู่อาการอัลไซเมอร์ได้ โดยเฉพาะโรคอัลไซเมอร์ อาการเริ่มต้นที่ไม่ควรมองข้าม เช่น การลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น สับสนเรื่องเวลา หรือหลงทางในสถานที่คุ้นเคย เมื่อเข้าใจว่า อัลไซเมอร์ เกิดจากอะไร การหันมาใส่ใจตรวจคัดกรองความเสี่ยงตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้วางแผนดูแลสุขภาพสมองได้ดีขึ้นในระยะยาว เพื่อให้ทุกคนเข้าใจและเท่าทันอาการอัลไซเมอร์ บทความนี้ CogMate™ จะพาคุณไปรู้จักโรคอัลไซเมอร์ให้ลึกยิ่งขึ้น ทั้งสาเหตุ สัญญาณเตือน อาการเริ่มต้น พร้อมแนะนำแบบทดสอบสมองที่ช่วยคัดกรองความเสี่ยงได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ เพื่อให้คุณวางแผนดูแลสมองได้ทัน ก่อนจะสายเกินไป
ตรวจเช็กความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์วันนี้
เพื่อวางแผนดูแลสมองระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ
หลายคนอาจเข้าใจว่า "โรคอัลไซเมอร์" และ "ภาวะสมองเสื่อม" คือเรื่องเดียวกัน จึงมักใช้คำสองคำนี้แทนกันโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่จริงแล้วโรคอัลไซเมอร์เป็นเพียงหนึ่งในสาเหตุของภาวะสมองเสื่อมที่พบได้บ่อยที่สุด โดยอัลไซเมอร์ เกิดจากความผิดปกติของโปรตีนในสมอง เช่น เบต้าอะมีลอยด์ (Beta-amyloid) และโปรตีนเทา (Tau) ซึ่งรบกวนการทำงานของเซลล์ประสาท โดยเฉพาะบริเวณที่ควบคุมความจำ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีปัญหาด้านความจำ การสื่อสาร และการตัดสินใจ จึงไม่น่าแปลกใจที่หนึ่งในอาการอัลไซเมอร์ที่พบบ่อยคือ “หลงลืม” และในหลายรายมีปัญหาในการสื่อสารหรือการตัดสินใจตามมา
ความแตกต่างระหว่าง “หลงลืม” และ “ขี้ลืม” ในผู้ป่วยอัลไซเมอร์กับอาการขี้ลืมในผู้สูงอายุ หลงลืม คือ การจำไม่ได้และไม่คิดว่าเคยเกิดขึ้นขี้ลืม คือ การลืมที่เจ้าตัวยังจำได้เมื่อหาเจอ
ในขณะที่ภาวะสมองเสื่อม (Dementia) คือกลุ่มอาการที่เกิดจากการเสื่อมถอยของการทำงานของสมอง โดยอาจมีสาเหตุที่แตกต่างจากโรคอัลไซเมอร์ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคพาร์กินสัน การบาดเจ็บทางสมอง หรือแม้แต่ภาวะขาดวิตามินบางชนิด ซึ่งในบางกรณีสามารถรักษาให้ดีขึ้นได้หากวินิจฉัยถูกต้อง การเข้าใจความแตกต่างอย่างชัดเจนจะช่วยให้วางแผนดูแลสุขภาพสมองได้อย่างเหมาะสม
โรคสมองเสื่อมเหมือน "มะม่วง" ส่วนอัลไซเมอร์และสมองเสื่อมจากพาร์กินสัน คือ "สายพันธุ์ต่าง ๆ" ที่มีลักษณะและอาการเฉพาะตัว แตกต่างกันไปแม้เป็นกลุ่มเดียวกัน
โดยเฉพาะเมื่อสังเกตเห็นโรคอัลไซเมอร์ อาการเริ่มต้น เช่น ลืมชื่อคนใกล้ตัว สับสนเวลา สถานที่ หรือพฤติกรรมเปลี่ยนไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ยิ่งตรวจพบเร็วเท่าไร ยิ่งมีโอกาสชะลอการเสื่อมของสมองได้เร็วขึ้นเท่านั้น
โรคอัลไซเมอร์เป็นภาวะสมองเสื่อมที่ค่อย ๆ พัฒนาโดยไม่ทันสังเกต การเข้าใจสาเหตุและอาการเริ่มต้นจึงเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันและดูแลสมองอย่างมีประสิทธิภาพ หากจับสัญญาณได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็สามารถเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาได้ทัน ลดผลกระทบในระยะยาว นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพสมองอย่างสม่ำเสมอ ยังช่วยประเมินความเสี่ยงและวางแผนฟื้นฟูได้อย่างตรงจุด ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ใส่ใจสุขภาพสมอง CogMate™ ขอชวนคุณมาทำความรู้จักกับ 10 สัญญาณเตือนโรคอัลไซเมอร์ ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการรู้ทันโรค คือก้าวแรกของการดูแลตัวเองอย่างแท้จริง
เริ่มต้นด้วยอาการหลงลืมเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นอย่างชัดเจน เช่น ลืมนัดหมายสำคัญ หรือถามคำถามเดิมซ้ำ ๆ โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว อาการนี้ถือเป็นสัญญาณแรกที่หลายคนอาจพบเจอในโรคอัลไซเมอร์
อาการต่อมาคือความสับสนในเรื่องเวลาและสถานที่ ผู้ป่วยอาจรู้สึกเหมือนหลุดออกจากบริบทเดิม จำวัน เดือน หรือสถานที่ที่คุ้นเคยไม่ได้เหมือนเดิม ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลตามมา
นอกจากนี้ยังพบว่า การวางแผนหรือแก้ไขปัญหาในชีวิตประจำวันกลายเป็นเรื่องยากขึ้น เช่น การจัดตารางชีวิต คำนวณตัวเลข หรือทอนเงินผิดบ่อยครั้ง จากที่เคยทำได้ง่ายกลับกลายเป็นความท้าทาย
บางครั้งการสื่อสารก็เริ่มมีปัญหา เช่น หาคำพูดหรือคำเขียนไม่เจอ พูดติดขัด หรือเลือกใช้คำที่ไม่ตรงกับบริบทปกติ ทำให้การสื่อสารกับผู้อื่นไม่ราบรื่นเหมือนเคย
พฤติกรรมวางของผิดที่เริ่มเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จนบางครั้งตัวเองก็ยังแปลกใจ เช่น กุญแจบ้านไปอยู่ในตู้เย็น หรือของสำคัญถูกวางในที่ไม่คาดคิด
การตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ อาจผิดพลาดบ่อยขึ้น ทั้งเรื่องเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน หรือเรื่องสำคัญ รวมถึงการใช้เงินเกินตัวโดยไม่รู้ตัว
ผู้ป่วยมักหลีกเลี่ยงกิจกรรมทางสังคม กลายเป็นคนไม่อยากพบปะผู้คน หรือขาดความสนใจในสิ่งที่เคยชอบอย่างชัดเจน
บุคลิกและอารมณ์เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด อาจหงุดหงิดง่าย วิตกกังวล หรือซึมเศร้าโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน จนคนรอบข้างสังเกตได้ทันที
ความใส่ใจในตัวเองลดลงจนสังเกตได้ เช่น ไม่ดูแลสุขอนามัย กินอาหารไม่เป็นเวลา หรือแต่งกายไม่เรียบร้อย เหมือนการดูแลตัวเองเริ่มจางหายไป
สุดท้าย ปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นก็อาจเกิดขึ้น เช่น เห็นภาพซ้อน สีไม่ชัดเจน หรือมองเห็นผิดเพี้ยนไป ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและการใช้ชีวิตประจำวัน
อาการเหล่านี้มักเริ่มปรากฏตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไป และจะชัดเจนมากขึ้นในวัย 65+ หากคุณหรือคนใกล้ตัวเริ่มมีพฤติกรรมที่กล่าวมา อย่าละเลย ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยและวางแผนการดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะสุขภาพสมองที่ดี เริ่มต้นได้จากความใส่ใจวันนี้
ลองประเมินสมองเบื้องต้นได้เลยกับ CogMate™
เคยสงสัยไหมว่า โรคอัลไซเมอร์ สาเหตุจริง ๆ มาจากอะไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเริ่มมีอาการอัลไซเมอร์หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อตัวเองเริ่มมีความจำเปลี่ยนแปลง หรือเริ่มลืมเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จนเกิดความกังวลว่าตนเองอาจเป็นโรคอัลไซเมอร์ หากคุณเริ่มมีคำถามเหล่านี้ในใจ นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ดีว่า ถึงเวลาแล้วที่จะทำความเข้าใจโรคอัลไซเมอร์ให้มากขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับโรคอัลไซเมอร์ สาเหตุ และอาการในแต่ละระยะอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมและดูแลสุขภาพสมองได้อย่างทันเวลา เพราะการ “รู้ก่อน ดูแลก่อน” คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยชะลออาการอัลไซเมอร์ให้นานที่สุด
ไม่มีอาการใด ๆ ที่สังเกตได้ มีการเปลี่ยนแปลงในสมองแล้ว แต่ยังไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตตรวจพบได้ด้วยการถ่ายภาพสมองทางรังสี หรือตรวจน้ำไขสันหลัง สามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ช่วงวัย 40+ ปัจจัยกระตุ้น คือ โรค NCD (Non-communicable diseases) เช่น ความดันโลหิตสูง ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ระดับไขมันในเลือดสูง ออกกำลังกายน้อย ความเครียด นอนน้อย หรือ นอนไม่ได้คุณภาพ รวมถึง การได้รับมลพิษต่าง ๆ เช่น PM2.5 ช่วงเวลานี้คือโอกาสสำคัญในการปกป้องและลดเหตุปัจจัยที่ก่อให้เกิดภาวะสมอง ด้วยเหตุนี้ การลดปัจจัยเสี่ยงที่กล่าวมา และเริ่มการตรวจสุขภาพสมองตั้งแต่วัยทำงานจึงไม่ใช่เรื่องเร็วเกินไป แต่เป็นการเริ่มดูแลตัวเองอย่างชาญฉลาดตั้งแต่วันนี้ เพราะการรู้จักสัญญาณเตือนและประเมินความเสี่ยงตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดความเครียด และเสริมสร้างสุขภาพสมองได้ทันเวลา ทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสในการป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาวะการรู้คิดบกพร่องเล็กน้อย ซึ่งเป็นภาวะก่อนระยะอัลไซเมอร์ ผู้ป่วยจะมีอาการลืมเล็กน้อยที่สังเกตได้ เช่น ลืมชื่อคนรู้จัก ลืมสิ่งของที่วางไว้ ลืมนัดหมาย หรือหาคำพูดไม่ได้เป็นครั้งคราว แต่ยังสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติ เช่น ขับรถ ซื้อของ จัดการเงิน และดูแลตัวเองได้ การวินิจฉัยต้องอาศัยการทดสอบความจำ (Working Memory) การจดจ่อ (Attention) แบบเชิงรุก (Cognitive Assessment) โดยแพทย์ หรือเครื่องมือที่ออกแบบมาใช้ตรวจจับการสูญเสีย 2 ด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อแยกแยะจากการลืมการบกพร่องด้านการจดจ่อตามวัย กับ การเป็นภาวะรู้คิดบกพร่องเล็กน้อยก่อนภาวะอัลไซเมอร์ (MCI) ระยะ MCI นี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะยังมีโอกาสชะลอการพัฒนาไปสู่ระยะอัลไซเมอร์ต่อไป ด้วยการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพลง การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การฝึกสมอง การรักษาโรคประจำตัว และการจัดการความเครียด รวมถึงการติดตามอาการอย่างใกล้ชิดกับแพทย์
ในระยะนี้ อาการอัลไซเมอร์จะมีความจำระยะสั้นบกพร่องอย่างชัดเจน ลืมเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น ลืมชื่อคนใกล้ชิด ถามคำถามซ้ำ หาคำพูดไม่ได้บ่อยขึ้น และเริ่มมีปัญหาในการตัดสินใจเรื่องซับซ้อน อย่างการจัดการเงิน การวางแผน หรือการแก้ปัญหา แม้จะยังดูแลตัวเองได้ในเรื่องพื้นฐาน เช่น อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว แต่อาจต้องการความช่วยเหลือในงานที่ยุ่งยากขึ้น เช่น การใช้เทคโนโลยี การจ่ายบิล หรือการขับรถในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย หากเริ่มมีอาการหลงลืม เช่น วางของผิดที่ หรือจำชื่อคนไม่ค่อยได้ อย่าเพิ่งกังวล แต่ควรเริ่มใส่ใจ เพราะแม้อัลไซเมอร์จะมักพบในผู้สูงอายุ แต่วัยทำงานเองก็เริ่มเผชิญความเสี่ยงได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ที่เผชิญกับความเครียดสะสม พักผ่อนไม่เพียงพอ ขาดการออกกำลังกาย หรือมีพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีต่อสมอง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยเร่งให้สมองเสื่อมก่อนวัยอันควร
ในระยะนี้ อาการอัลไซเมอร์ต้องมีคนดูแลในกิจวัตรประจำวัน เพราะระยะนี้การลืม จะเป็นการลืมข้อมูลส่วนตัวพื้นฐาน เช่น ชื่อลูกหลาน ที่อยู่ตัวเอง หลงทางในบ้านหรือพื้นที่คุ้นเคย และมีปัญหาการสื่อสาร เช่น พูดซ้ำ หรือเข้าใจคำพูดผิด รวมถึงเริ่มไม่สามารถดูแลสุขอนามัยส่วนตัวได้เต็มที่ ด้านอารมณ์และพฤติกรรมก็มีการเปลี่ยนแปลงชัดเจน เช่น หงุดหงิดง่าย สงสัยคนรอบข้าง เดินไปมาไร้จุดหมาย นอนหลับยาก กลับหรือออกจากบ้านบ่อย และอาจมีอาการประสาทหลอน เห็นหรือได้ยินสิ่งที่ไม่มีจริง การดูแลในระยะนี้เน้นการรักษาความปลอดภัยและคุณภาพชีวิต ด้วยการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม การให้ยาควบคุมอาการทางจิตเวช การจัดกิจกรรมเหมาะสมกับความสามารถ และการฝึกอบรมผู้ดูแลให้มีทักษะการจัดการพฤติกรรมที่ท้าทาย รวมถึงการหาแหล่งสนับสนุนและการพักผ่อนสำหรับผู้ดูแล เพื่อป้องกันความเหนื่อยล้าและความเครียดในระยะยาว
ในระยะสุดท้ายของโรคอัลไซเมอร์ ผู้ป่วยมักสูญเสียความทรงจำเกือบทั้งหมด และไม่สามารถดูแลตนเองได้ ต้องพึ่งพาคนใกล้ชิดตลอดเวลา แม้การสื่อสารจะลดลงมาก แต่ความรู้สึกถึงความรักและความอบอุ่นจากคนรอบข้างยังคงอยู่ การเข้าใจอาการในแต่ละระยะ โดยเฉพาะช่วงท้าย จะช่วยให้ครอบครัวและผู้ดูแลเตรียมตัวทั้งร่างกายและจิตใจ วางแผนดูแลได้เหมาะสม เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
การเข้าใจว่าโรคอัลไซเมอร์ เกิดจากอะไร และรู้จักสังเกตอาการตั้งแต่ระยะเริ่มต้น คือก้าวแรกที่สำคัญในการ “รู้ก่อน ดูแลก่อน” ซึ่งจะช่วยชะลอการเสื่อมของสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่าลืมว่า การใส่ใจสุขภาพสมองตั้งแต่วันนี้ คือของขวัญล้ำค่าที่คุณมอบให้ตัวเอง และคนที่คุณรักอย่างแท้จริง
เข้าใจอัลไซเมอร์ทุกระยะ
ดูแลตัวเองและคนที่คุณรักได้ทันเวลา
หากคุณหรือคนใกล้ตัวเริ่มรู้สึกว่าความจำไม่เหมือนเดิม ลืมเรื่องง่าย ๆ ที่เคยจำได้ดี อาจกำลังสงสัยว่า นี่คือสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์หรือเปล่า การทำความเข้าใจว่า โรคอัลไซเมอร์ สาเหตุเกิดจากอะไร และรู้เท่าทันปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง จะช่วยให้เรารับมือและดูแลสุขภาพสมองได้อย่างทันท่วงที โรคอัลไซเมอร์เป็นหนึ่งในภาวะสมองเสื่อมที่พบบ่อย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ซึ่งมีลักษณะเด่นคือความจำเสื่อม การคิดวิเคราะห์ลดลง และพฤติกรรมที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป โดยอัลไซเมอร์ เกิดจากความผิดปกติหลายด้านร่วมกัน เช่น
ปัจจัยเหล่านี้ล้วนสะสมและส่งผลต่อโครงสร้างและการทำงานของสมองอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้โรคค่อย ๆ แสดงอาการโดยที่หลายคนอาจไม่ทันสังเกตตั้งแต่แรกเริ่ม
แม้บางปัจจัยจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การรู้เท่าทันคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณลดความเสี่ยง และเตรียมการดูแลสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แม้ปัจจุบันโรคอัลไซเมอร์ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาดได้ แต่สิ่งที่เราทุกคนสามารถเริ่มทำได้ทันที คือการดูแลสมองอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อช่วยชะลอความเสื่อมและลดความเสี่ยงในระยะยาว เพราะสมองก็เหมือนกล้ามเนื้อ ยิ่งได้รับการใช้งานและดูแลเร็วเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสคงความแข็งแรงได้นานเท่านั้น และนี่คือ 5 วิธีดูแลสุขภาพสมองในระยะยาว ที่เราอยากชวนคุณเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ ไม่เพียงเรียบง่าย แต่ยังลงมือทำได้จริงในชีวิตประจำวัน
อาหารส่งผลต่อสมองมากกว่าที่คิด อาหารที่ดีต่อหัวใจมักดีต่อสมอง เพราะช่วยให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองเต็มที่ และลดการอักเสบ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของโรคอัลไซเมอร์ สาเหตุที่พบบ่อย
อาหารที่ควรเน้น ได้แก่
การกินอาหารที่หลากหลายและสมดุลในทุกวัน ช่วยลดความเสี่ยงของอาการอัลไซเมอร์ในระยะยาวได้อย่างเป็นรูปธรรม
งานวิจัยจำนวนมากชี้ว่า การออกกำลังกายสามารถลดการสะสมของโปรตีนเบต้าอะไมลอยด์ในสมอง ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำให้อัลไซเมอร์ เกิดจากความเสื่อมของเซลล์ประสาท
แนะนำ
การขยับร่างกายเป็นประจำ แม้เล็กน้อย ก็ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ความจำดีขึ้น อารมณ์แจ่มใส และลดความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ อาการเริ่มต้นที่อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว
สมองที่เผชิญความเครียดสะสมเรื้อรัง มีแนวโน้มเสื่อมเร็วกว่า สมองที่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ การฝึกสมาธิ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้สมองได้หยุดพักจากความคิดวุ่นวาย ลดฮอร์โมนเครียดที่เป็นตัวเร่งความเสื่อม
ตัวอย่างกิจกรรม
การมีจิตใจสงบ ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น และเป็นเกราะป้องกันหนึ่งต่ออาการอัลไซเมอร์ที่อาจเกิดขึ้นในระยะต่อไป
สมองที่ถูกใช้อย่างสม่ำเสมอจะสร้างเครือข่ายใหม่อยู่เสมอ ซึ่งช่วยเสริมความจำและลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ อาการเริ่มต้นที่เกี่ยวข้องกับการหลงลืม
กิจกรรมแนะนำ
หลายคนมองข้ามการนอน ทั้งที่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่สมองจัดระเบียบข้อมูลและซ่อมแซมตัวเอง หากนอนไม่พอ สมองจะสะสมของเสีย ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งที่ทำให้เกิดอัลไซเมอร์จากระบบกำจัดของเสียในสมองผิดปกติ
เคล็ดลับเพื่อการนอนหลับที่ดี
โรคอัลไซเมอร์เป็นเรื่องที่หลายคนอยากเข้าใจให้ชัดเจน เพราะการรู้เท่าทันและตรวจสอบสุขภาพสมองตั้งแต่ระยะแรก คือกุญแจสำคัญในการชะลอหรือป้องกันการเสื่อมของสมองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เริ่มสงสัยว่าตนเองอาจมีอาการหรือพบสัญญาณเบื้องต้นของโรคนี้ ในปัจจุบันจึงมีเครื่องมือคัดกรองและทดสอบความจำที่ช่วยประเมินระดับสุขภาพสมองอย่างแม่นยำและสะดวก อย่าง CogMate™ ซึ่งไม่ได้ใช้เฉพาะเมื่อมีอาการแล้วเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ตรวจคัดกรองภาวะเสี่ยงได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการอัลไซเมอร์ เพื่อวางแผนดูแลสมองอย่างชาญฉลาดก่อนเกิดความเสื่อม ช่วยให้คุณเข้าใจสุขภาพสมองของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
CogMate™ คือเครื่องมือวัดระดับสุขภาพสมองที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยีและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ออกแบบมาเพื่อใช้วัดความจำ (Working Memory) การจดจ่อ (Attention) ที่จะสูญเสีย หรือได้รับผลกระทบในแง่การเสื่อมลงในโรคอัลไซเมอร์ อาการเริ่มต้น ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พัฒนาร่วมโดย Cogstate Ltd. ผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบสมอง และ Eisai บริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำด้านการวิจัยยาอัลไซเมอร์ โดยใช้แบบทดสอบ Cogstate Brief Battery ซึ่งได้รับการยอมรับและใช้อย่างแพร่หลายในคลินิกและงานวิจัย โดยเฉพาะด้านภาวะสมองเสื่อม แตกต่างจากแบบทดสอบทั่วไปที่อาจเน้นเพียงการประเมินความจำเพียงอย่างเดียว CogMate™ ประเมินหลายมิติของสมอง ทั้งความจำ การวางแผน การคิดวิเคราะห์ และการรับรู้ ซึ่งทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ครอบคลุมและละเอียดกว่า นอกจากนี้ยังทำได้ผ่านระบบออนไลน์ง่าย ๆ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
แบบทดสอบสมอง CogMate™ เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการดูแลสุขภาพสมอง แต่จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับกลุ่มต่อไปนี้
CogMate™ เป็นเครื่องมือทดสอบสมองออนไลน์ที่ออกแบบมาเฉพาะ เพื่อวัดประสิทธิภาพของสมองทั้ง 4 ด้าน ที่ผู้ใช้สามารถทำแบบประเมินได้ผ่านบนพีซี แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน สะดวกทุกที่ทุกเวลา ใช้เวลาเพียง 15 นาที พร้อมคำแนะนำที่เข้าใจง่ายตลอดขั้นตอน การทดสอบครอบคลุมการวัดความจำ การแก้ปัญหา การใช้เหตุผล และความสามารถในการรับรู้ต่าง ๆ ซึ่งสำคัญต่อการตรวจจับอาการอัลไซเมอร์ และปัจจัยเสี่ยงของโรคนี้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
ผลการทดสอบจะช่วยให้คุณเห็นภาพระดับสุขภาพสมอง และอายุสมองของตนเองอย่างชัดเจน พร้อมคำแนะนำที่สามารถนำไปใช้จริงได้ เช่น
ด้วยวิธีนี้ CogMate™ จึงเป็นมากกว่าเครื่องมือคัดกรองสุขภาพสมอง แต่เป็นแบบประเมินและติดตามสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันและดูแลสมองอย่างครบวงจร
การเข้าใจว่าโรคอัลไซเมอร์ สาเหตุ และอัลไซเมอร์ เกิดจากอะไร รวมถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่สามารถควบคุมได้ เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิต อาหาร หรือการพักผ่อนที่เพียงพอ จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อเริ่มมีอาการอัลไซเมอร์หรือสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์ อาการเริ่มต้น อย่างลืมเรื่องที่เพิ่งเกิด สับสนวันเวลา หรือวางของผิดที่บ่อย ๆ อาจเป็นอาการระยะเริ่มต้นที่ไม่ควรมองข้าม ดังนั้น การตรวจสุขภาพสมองกับ CogMate™ ตั้งแต่เนิ่น ๆ คือก้าวแรกในการดูแลสมองให้แข็งแรงและชะลอการเสื่อมอย่างมีประสิทธิภาพ
อย่ารอให้ลืม จนลืมว่าต้องดูแลสุขภาพสมอง
ทดลองประเมินสมองของคุณวันนี้ กับแบบทดสอบออนไลน์ CogMate™